หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ มั่นใจแนวโน้มเศรษฐกิจเชียงใหม่ปี 2562 เติบโตดีขึ้นจากหลายปัจจัย เชื่อมั่นนักท่องเที่ยวโตก้าวกระโดดแตะ 12 ล้านคน
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562 เวลา
10.00 น. ณ สำนักงานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจปี
2562 ไตรมาสแรกจะเร่งตัวขึ้นจากปี 2561 จากความมั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งปลายไตรมาสที่
1 ที่จะส่งผลด้านความมั่นใจทางการเมืองของนักลงทุนและผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ผนวกกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปี
และการออกมาตรการด้านภาษีที่ให้เกิดการท่องเที่ยว ชี้อนาคตนักท่องเที่ยวเข้าเชียงใหม่จะโตถึง
12 ล้านคนในปี 2562
นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่
เปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจเชียงใหม่ภาพรวมในปี 2562 ว่าจะเร่งตัวขึ้นจากปี 2561 ตามปัจจัยภาพรวมของประเทศที่จะกระตุ้นจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่
24 มีนาคม 2562 ปลายไตรมาสที่ 1 จะส่งผลด้านความมั่นใจทางการเมืองของนักลงทุนและผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
ประกอบการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปีต่อเนื่องต้นปีก่อนการเลือกตั้งทั้งผ่านบัตรสวัสดิการ
การออกมาตรการด้านภาษีที่ให้เกิดการท่องเที่ยวเมืองรอง เป็นต้น ก็จะทำให้ประชาชนจะกลับมาใช้จ่าย
ลงทุน และบริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ส่วนด้านเศรษฐกิจของเชียงใหม่เองยังต้องพึ่งส่วนของการท่องเที่ยว
และการลงทุน ซึ่งคาดว่าในช่วงไฮซีซั่นปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะมีอัตราท่องเที่ยวที่สูงขึ้น
ซึ่งเราจะต้องปรับรูปแบบการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่ปรับเปลี่ยนจากกรุ๊ปทัวร์มาเป็นการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง
หรือ FIT สูงขึ้น โดยหอการค้าฯ ได้วิเคราะห์เศรษฐกิจเชียงใหม่แต่ละด้านดังนี้
ด้านการท่องเที่ยว ด้านนักท่องเที่ยวจีนที่มีประเด็นว่าลดลงในปีที่ผ่านมา หอการค้าฯ ได้วิเคราะห์แล้วว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีน
และเที่ยวบินไม่ได้ลดลง และในปี 2561 มีมากกว่า 2 ล้านคน สายการบินประจำที่ทำการบินตรงจากเชียงใหม่ไปยังจีนแผ่นดินใหญ่และเขตปกครองพิเศษของจีนอีก
15 สายการบินใน 14 เส้นทาง 36 เที่ยวบิน/วัน หรือเฉลี่ยวันละ 6,000 คน ก็ยังไม่ลดและยังเพิ่มบินตรงไปยังเมืองปักกิ่งเพิ่มขึ้นของแอร์เอเชีย
ซึ่งเดิมแอร์เอเซียมีเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศไปยัง ฮ่องกง มาเก๊า ฉางซา หางโจว และหนานชาง
แต่ที่น่าสนใจคือนักท่องเที่ยวจีนใช้บริการผ่านบริษัททัวร์ลดลงมาก
และนักท่องเที่ยว กลุ่มท่องเที่ยวด้วยตนเองแทน (Free
and Independent Traveler : FIT) ส่วนนี้หอการค้าฯ
จึงจะได้เสนอให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวปรับตัวด้านสินค้าและบริการที่เชื่อมระบบออนไลน์
กับจีนสูงขึ้นรวมถึงการใช้ระบบชำระเงิน โดยสถิตินักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนเชียงใหม่มีทั้งหมด
10,844,753 คน เป็นคนไทย 7.5 ล้านคน ชาวต่างชาติ 3.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณ
ร้อยละ 4 สามารถสร้าง รายได้ให้กับพื้นที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ถึง 108,012 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยว
ไทย 66,362 ล้านบาท และจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 41,650 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มในปีนี้ คิดว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดียก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
จึงเชื่อมั่นว่า อัตราการขยายตัวของการท่องเที่ยวยังจะขยายตัวสถิตินักท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่มี
จานวน 11-12 ล้านคน จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยว 10% หรือมากกว่า 120,000 ล้านบาท
ซึ่งในระยะยาว ในปี 2563 มีการประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นถึง 15-20 ล้านคน
ซึ่งเชียงใหม่ในอนาคตเราจำเป็นที่จะต้องกระจาย และดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศในกลุ่มใหม่เพิ่มทั้งจากตะวันออกกกลาง
หรือในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน
ด้านสินค้าการเกษตร ถือว่าเป็นภาคเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้นเนื่องจากผลผลิตลำไย เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ
5-7 จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อเนื่องโดยเฉพาะปลายปีฤดูหนาวนี้ก็จะมีสตรอเบอรี่ รวมพืชผักเมืองหนาวออกสู่ตลาด
อย่างไรก็ตามภาคการเกษตรก็จะ เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว หากเราช่วยกันส่งเสริมให้เกิดภาคการท่องเที่ยวเติบโตขึ้น
ก็จะช่วยกันเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น และก็จะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ได้
เศรษฐกิจก็จะหมุนเวียนตามมาด้วย
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีการประเมินว่า
จะไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา มีอุปทาน คงเหลือจำนวนมาก
ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ชะลอการลงทุน กำลังซื้อบ้านเดี่ยวของลูกค้าในประเทศไม่สูงมากนัก
และเริ่มมีธุรกิจจัดสรรขนาดเล็กจำนวนแปลงไม่มาก พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายเล็กในพื้นที่และจำหน่ายในราคาไม่สูง
สำหรับคอนโดมิเนียมยังได้กำลังซื้อจากนักลงทุนชาวจีน และมีการเปิดโครงการใหม่เพื่อรองรับความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมของชาวจีนอย่างต่อเนื่อง
SME ต้องปรับตัวสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิตอล
นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ กล่าวต่อว่า หอการค้าฯ
ยังให้ความสำคัญกับการนำเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในจังหวัด เนื่องจากมองแนวโน้มในอนาคตอันใกล้ว่ามูลค่าการค้าแบบ
E-commerce มีอัตราการเติบโตสูง และขยายตัวเร็วมาก
ซึ่งหอการค้าฯ กำลังสร้างฐานข้อมูลด้านนี้ขึ้นมาโดยตรง เพราะเชียงใหม่มีมูลค่าการค้าแบบออนไลน์สูง
นอกจากนั้นการเข้าสู่ระบบสังคมไร้เงินสดก็ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นการรับรู้ให้มากขึ้น
เพราะจะลดต้นทุนรวมถึงสะดวกสำหรับผู้ขายด้วย รวมถึงหอการค้าฯ จะได้ผลักดันให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจระบบการส่งออกสินค้าไปยังจีนในระบบ
Cross Border Ecommerce ด้วยที่จะทำให้ลดต้นทุนทางด้านภาษี นอกจากนั้น
ยังพบว่ามีสถิติธุรกรรมการนำส่งพัสดุทางไปรษณีย์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เมื่อธุรกิจออนไลน์หรืออีคอมเมิร์สมีธุรกรรมที่ขยายตัวรวดเร็ว
ย่อมหมายความถึงธุรกิจดั้งเดิมที่เป็น off-line ยอดจำหน่ายจะถูกกระทบไปด้วย และจะรุนแรงขึ้นในอนาคต ซึ่งหอการค้าฯ จะได้เร่งกระตุ้นผู้ประกอบการ
รวมถึงสมาชิกหอการค้าฯ ได้ปรับตัวและเข้าสู่ฐานเศรษฐกิจดิจิตอลมากขึ้นในอนาคต ซึ่งเป้าหมายหอการค้าฯ
ก็จะผลักดันต่อเนื่องให้เชียงใหม่เป็นเมือง marketplace ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
และการเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศต่อไป
เปิดแผนงานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ในปี
2562
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยต่อว่าเนื่องจากการบริหารงานของหอการค้าฯ
ในสมัยนี้จะหมดวาระในเดือนมีนาคม 2562 ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 16 มีนาคม 2562
ก็จะได้ประสานงานต่อไปยังประธานและคณะกรรมการชุดใหม่ในการดำเนินกิจกรรมโครงการที่ส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง
โดยจะเสนอให้คงโครงการต่อเนื่องได้แก่ โครงการที่หอการค้าฯ ได้นาเสนอและผ่านมติคณะรัฐมนตรีสัญจรแล้วคือโครงการพื้นที่นวัตกรรมเครื่องสำอางภาคเหนือ
(Northern Thailand Cosmetic Valley) และโครงการ Cross
Border Ecommerce เชื่อมตลาดจีน
นอกจากนั้นคือ โครงการงานแสดงสินค้า เช่น
หอการค้าแฟร์ งานแสดงสินค้าชายแดน เพื่อสร้างช่องทางการตลาด กระตุ้นกำลังซื้อในพื้นที่และภาคเหนือ
ตลอดจนเป็นเวทีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด โครงการท่องเที่ยวแบบพานักระยะยาว
(Long Stay) ที่จะดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่พำนักระยะยาวเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่
โครงการท่องเที่ยวฮาลาล (Halal Tourism) เจาะตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม
โครงการส่งเสริมด้านการค้า การท่องเที่ยวกับบ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดเชียงใหม่ และหอการค้าฯ
โครงการเชียงใหม่สู่ Smart City เป็นต้น นอกจากนั้นก็จะได้เร่งรัดโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเชียงใหม่ไม่ว่าด้านสนามบินนานาชาติแห่งที่
2 การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ โครงการมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงราย เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น