หอการค้าเชียงใหม่เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจเหนือ เตรียมจัดงานหอการค้าแฟร์ 2018 ยิ่งใหญ่ บูรณาการภาคการศึกษา-ภาครัฐตั้งเป้าเงินสะพัด 50 ล้านบาท
หอการค้าจังหว้ดเชียงใหม่ทุ่มสุดตัวจัดงานหอการค้าแฟร์
2018 ภายใต้งาน Lanna Expo 2018 โดยยึดแนวทางการบูรณาการภาครัฐ
ภาคการศึกษาแบบครบวงจร
เพื่อสร้างรายได้และการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบยั่งยืนในพื้นที่ตั้งเป้าเงินสะพัดในงานไม่น้อยกว่า
100 ล้านบาท ที่ 3
หอการค้า คาดว่าจะมีผู้ร่วมชมงานมากกว่า 250,000 คนตลอด 10
วัน และจะสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 50 ล้านบาท
ซึ่งจะเพิ่มขึ้นกว่าการจัดงานในปีที่ผ่านมาอันจะกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ในช่วงกลางปีเชื่อมโยงภาคเหนือ
นางวิภาวัลย์
วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่จะได้จัดงาน
“หอการค้าแฟร์ 2018” Chiang Mai
Chamber of Commerce Fair 2018 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายในงาน Lanna
Expo 2018 ระหว่างวันที่ 22
มิถุนายน-1 กรกฎาคม 2561 ณ
ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ
7 รอบ พระชนมพรรษา
จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับการสนับสนุนจากดียิ่งจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน
1 และจังหวัดเชียงใหม่ที่สนับสนุนพื้นที่จัดงานหอการค้าแฟร์ 2018
เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้า ขยายช่องทางทางการตลาดของผู้ประกอบการ
พร้อมกับส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
และภาคเหนือ คาดว่าจะมีผู้ร่วมชมงานมากกว่า 250,000 คนตลอด 10 วัน และจะสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 50 ล้านบาท
ซึ่งจะเพิ่มขึ้นกว่าการจัดงานในปีที่ผ่านมา
“ในปี
2561 หอการค้าฯ ได้รับการสนับสนุนจากดียิ่งจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน
1 และจังหวัดเชียงใหม่ที่สนับสนุนพื้นที่จัดงานหอการค้าแฟร์ 2018
เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้า ขยายช่องทางทางการตลาดของผู้ประกอบการ
พร้อมกับส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ
และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ ซึ่งได้จัดบู้ธจำหน่ายสินค้าและแสดงศักยภาพเศรษฐกิจของเชียงใหม่ทั้งหมด
125 บูธ แบ่งเป็นโซนสินค้าฮาลาล ฮาลาลสตรีท
โซนนิทรรศการฮาลาล โซน Wellness
โซนผู้ประกอบการจากโครงการ Cosmetic Valley โซนตลาดผลไม้
เป็นต้น”
ประธานหอการค้าฯ
กล่าวอีกว่า หอการค้าแฟร์ 2018 นับเป็นกิจกรรมครั้งใหญ่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง
ที่หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการสนับสนุนการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงอย่างดียิ่ง
และใกล้ชิดกับภาครัฐ ภาคการศึกษา
ตลอดจนหน่วยงานที่สำคัญในการผลักดันโครงการเชิงยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ผ่านการพัฒนาผู้ประกอบการอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม
และเป็นการจัดงานที่หอการค้าฯ
วางรูปแบบการจัดงานที่ใหญ่ที่สุดในเชิงบูรณาการโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่แบบครบวงจร
ดร.ณพศิษฐ์
จักรพิทักษ์ คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าวว่า
การดำเนินโครงการในปีนี้ถือเป็นการบูรณาการอย่างใกล้ชิดระหว่างสถาบันการศึกษากับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้ดำเนินโครงการร่วมกันได้แก่
1.)
โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการดิจิทัลของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน
ให้ก้าวสู่ Super
Cluster ด้านดิจิทัล Thailand 4.0
2.)
โครงการ Cross Border
E- commerce
3.)
โครงการ smart farmer และ smart insect
4.)
โครงการหน้าต่างการท่องเที่ยวสู่ล้านนา (Lanna Tourism
Enclave) ที่ได้ดำเนินการผ่านศูนย์วิจัยและพัฒนาการท่องเที่ยว
สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ดำเนินกิจกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness
Tourism) ในจังหวัดเชียงใหม่
และกิจกรรมการอบรมผู้ประกอบการล้านนาลองสเตย์
5.)
"โครงการพัฒนานวัตกรรมสมุนไพรสำหรับเครื่องสำอางภาคเหนือ"
(Cosmetic
Valley) (Lanna Long Stay)ของ คณะเภสัชศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
6.)
โครงการ
“พัฒนาความสามารถทางนวัตกรรมของผู้ประกอบการใหม่ภาคเหนือ รุ่นที่ 2 - Northern
Innovative Startup Thailand (NIST) : Batch 2” ของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ดำเนิน เพื่อสร้างผู้ประกอบการ Start
Up อย่างต่อเนื่อง
7.)
โครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Startup) ของ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ดร.ภราดร สุรีย์พงค์ ผู้ช่วยศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าในปีนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล
มีส่วนในการประสานงานนำผู้ประกอบการด้านฮาลาลมาร่วมออกบู้ธภายในโซนหอการค้าฯแฟร์
ซึ่งถือว่าไม่ใช่ครั้งแรกแต่เราได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่
และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงใหม่จัดงาน มาอย่างต่อเนื่องตลอด 3
ปีที่ผ่านมา
เพื่อสร้างการรับรู้เชิงพื้นที่ให้แก่นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปให้รับทราบถึงศักยภาพทางด้านอุตสาหกรรม
และสินค้าของฮาลาลในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและเป็นการให้ความสำคัญตามยุทธศาสตร์ฮาลาลของประเทศและของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
คาดหวังว่าการร่วมงานครั้งนี้จะเป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในบ้านเราอีกครั้งหนึ่งที่จะได้แสดงศักยภาพของสินค้าฮาลาลของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง
และเป็นการสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมฮาลาล และเราหวังว่า การขยายตลาดฮาลาลในบ้านเรา
เพิ่มยอดการส่งออกไปสู่นานาประเทศ อาจจะเริ่มจากตลาดในประเทศอาเซียน
ซึ่งหากเราประสบความสำเร็จตรงนี้ เราเข้มแข็งมากขึ้น
เครือข่ายการค้ากว้างขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะสามารถขยายตลาดต่อไปได้ถึงระดับโลก
รวมถึงทางโซนตะวันออกลางและยุโรปด้วย
เนื่องจากขณะนี้มีการขยายตัวของนักท่องเที่ยวมุสลิมเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น