กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ฉลองวาระครบ 60 พรรษาของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และวันชาติญี่ปุ่น ประจำปี 2563
กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ โดย นายฮิโรชิ
มัทสึโมะโตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้จัดงานฉลองวาระครบ 60
พรรษาของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และวันชาติญี่ปุ่น ประจำปี พ.ศ. 2563 ณ ณ
ห้องแกรนด์คอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงใหม่ ซึ่งได้รับเกียรติจากนายเจริญฤทธิ์
สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลใหญ่ กงสุล
และกงสุลกิตติมศักดิ์ต่างประเทศ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนงานราชการ
และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
โดย นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า "งานเลี้ยงฉลองวันชาติญี่ปุ่น ประจำปี
พ.ศ. 2563 ในวันนี้
ถือเป็นโอกาสเฉลิมฉลองวาระที่สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะจะทรงมีพระชนมพรรษาครบ 60
พรรษา ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ที่จะถึงนี้ นับตั้งแต่ประเทศไทย
และประเทศญี่ปุ่นได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26
กันยายน พ.ศ.2430 นั้น ตลอดระยะเวลา 130 กว่าปีที่ผ่านมา
มิตรภาพและความร่วมมืออันดีระหว่างสองประเทศได้พัฒนาร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชไมตรีระดับพระราชวงศ์ที่ทรงเปรียบเสมือนต้นแบบของการกระชับสัมพันธไมตรี
ความร่วมมือ การสนับสนุน และการแลกเปลี่ยนกันอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ
การเมือง สังคม และวัฒนธรรม ระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น
สัมพันธภาพอันอบอุ่นนี้
จะเป็นสะพานเชื่อมไปสู่การเรียนรู้และการพัฒนาร่วมกันในหลายมิติ
จึงเชื่อมั่นได้ว่าทั้งสองประเทศจะเดินไปสู่อนาคตที่งดงามได้
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการลงนามสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดฮอกไกโด
ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556
ซึ่งก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการศึกษา และวัฒนธรรม เพื่อกระชับมิตรภาพ
และพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
ในนามของจังหวัดเชียงใหม่ ผมขอขอบคุณชาวญี่ปุ่นทุกท่าน ทั้งนักท่องเที่ยว
นักธุรกิจ องค์กรอิสระ และผู้พำนักระยะยาว
ที่ได้เล็งเห็นถึงความน่าสนใจและความสวยงามของจังหวัดเชียงใหม่
และชื่นชอบในอัตลักษณ์ความเป็นล้านนาของเรา
ผมเชื่อมั่นว่าชาวจังหวัดเชียงใหม่ทุกคนพร้อมที่จะให้การต้อนรับชาวญี่ปุ่นและผู้มาเยือนทุกท่านเสมือนเครือญาติ
ด้วยหัวใจอันอบอุ่น เอื้อเฟื้อ และเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งประเทศญี่ปุ่นทรงมีพระชนมพรรษาครบ
60 พรรษา ในนามของจังหวัดเชียงใหม่ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก
ตลอดจนพระบารมีแห่งองค์พระบรมธาตุเจ้าดอยสุเทพ
ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวจังหวัดเชียงใหม่ ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ
และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง มีพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน
และเป็นมิ่งขวัญของปวงพสกนิกรตลอดไป ขอให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสองมีความมั่นคงยั่งยืน"
นายฮิโรชิ มัทสึโมะโตะ
กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่
ส่วน นายฮิโรชิ มัทสึโมะโตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ
นครเชียงใหม่ กล่าวว่า "ในปีที่ผ่านมา
ได้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะของญี่ปุ่น
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 ของไทย
ถือเป็นวาระมหามงคลที่สานความสัมพันธ์ระหว่างไทยและญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทั้งในระดับราชวงศ์และระดับประชาชน ดังจะเห็นได้จากการพบปะกันของนาย ABE
Shinzo นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นและพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ในงานประชุมผู้นำ G20
และ ASEAN เมื่อปีที่แล้ว และการมาเยือนไทยของนาย MOTEGI
Toshimitsu รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศมากยิ่งขึ้น
รวมถึงการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนที่พัฒนาในหลากหลายด้าน เช่น
ในปีที่แล้วมีชาวไทยมากกว่าล้านคนไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น
และมีชาวญี่ปุ่นมากกว่าหนึ่งล้านหกแสนคนมาท่องเที่ยวประเทศไทย ซึ่งในคืนนี้
ได้มีตัวแทนจากจังหวัด Fukuoka และ Okinawa มาออกบูธเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
และตั้งแต่กรกฎาคมปีนี้ กีฬา Olympic จะจัดขึ้นที่ Tokyo ผมจึงหวังว่าจะมีชาวไทยไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันมากยิ่งขึ้น
ตั้งแต่ผมมารับตำแหน่งเมื่อพฤษภาคมปีที่แล้วผมได้ไปเยือนทั้งเก้าจังหวัด
ในโอกาสนั้นผมได้เป็นตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านโครงการ KUSANONE ให้การสนับสนุน
รถดับเพลิง รถกู้ภัย หอพักนักเรียน และอื่นฯ
แก่ชุมชนระดับรากหญ้า
ซึ่งผมหวังว่าการสนับสนุนเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสังคมไทยต่อไป
ในด้านวัฒนธรรมและการศึกษา สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นฯ มีโอกาสได้ร่วมส่งรถกระทงที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นในเทศกาลลอยกระทง
ภายใต้ความร่วมมือของเทศบาลนครเชียงใหม่ นอกจากนี้
ผมมีโอกาสได้ไปชมการเรียนการสอนภาษาญี่ปุ่น
และพบว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งในเชียงใหม่มีการแลกเปลี่ยนกับสถาบันศึกษาของญี่ปุ่นอย่างกว้างขวาง
ผมรู้สึกดีใจที่เยาวชนไทยจำนวนมากให้ความสนใจในภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น
การแลกเปลี่ยนด้านศิลปะหัตถกรรม
ก็มีตัวอย่างเช่น โครงการ KOYORI ที่มีการถ่ายทอดเทคนิคการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น
เพื่อพัฒนามูลค่าของสินค้า OTOP ในภาคเหนือของไทย ดังที่จัดแสดงผลงานให้ทุกท่านได้ชมบริเวณหน้าห้อง
reception ด้านเศรษฐกิจ มีบริษัทญี่ปุ่นมากกว่า 30
บริษัทมาเปิดโรงงานผลิตในจังหวัดลำพูน
บางโรงงานถือเป็นแหล่งผลิตสำคัญของบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้เกิดการส่งออก
การจ้างงาน การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีสู่คนไทย อีกทั้ง บริษัทญี่ปุ่นเหล่านี้ได้กิจกรรมด้านสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชน
ภายใต้แนวคิด Corporate Social Responsibility (CRS)
ความสัมพันธ์กับจังหวัดฮอกไกโด ปัจจุบัน
รัฐบาลญี่ปุ่นเน้นบทบาทของท้องถิ่นมากขึ้น
การแลกเปลี่ยนระดับท้องถิ่นทั้งภาครัฐและเอกชนจึงมีความสำคัญมาก ส่งผลให้
มีองค์กรหรือบริษัทระดับท้องถิ่นของญี่ปุ่นเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่กันมากขึ้น
เพื่อประสานขอความร่วมมือ
ซึ่งผมก็ขอความร่วมมือจากทุกท่านในการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเช่นนี้ในภาคเหนือของไทย
ต่อไป
ในโอกาสนี้
ผมขอกล่าวขอบพระคุณทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนใน 9 จังหวัดภาคเหนือ
ตลอดจนชาวไทยทุกท่านที่มีส่วนในการดูแลและช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นในท้องถิ่นนี้ ตลอดมา ท้ายนี้
ผมขอเรียนเชิญทุกท่านดื่มถวายชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10
และสมเด็จพระราชินี ขอทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์พระชนมพรรษายั่งยืนนาน
อีกทั้ง ขอให้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างชาวไทยและชาวญี่ปุ่นยั่งยืน สืบไป"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น